ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์ 6 ประการสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกที่เสนอร่วมกันโดยสถาบันยุโรป 28 แห่ง
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2568 องค์กรอุตสาหกรรม 28 แห่งจากห่วงโซ่คุณค่าพลาสติกของยุโรป (รวมถึงสมาคมผู้แปลงพลาสติกแห่งยุโรป สมาคมรีไซเคิลแห่งยุโรป PETCore Europe, Plastics Europe และสมาคมรีไซเคิลพลาสติกแห่งยุโรป PRE ฯลฯ) ร่วมกันยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป โดยเตือนว่าอุตสาหกรรมพลาสติกของยุโรปกำลังอยู่ในภาวะถดถอยอย่างรุนแรง และจำเป็นต้องมีการแทรกแซงนโยบายอย่างเร่งด่วนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุตสาหกรรม การสูญเสียการลงทุนสีเขียว และการสูญเสียตำแหน่งงานจำนวนมาก
จากข้อมูลในจดหมาย ระบุว่าระหว่างปี พ.ศ. 2561 ถึง พ.ศ. 2565 การผลิตพลาสติกในยุโรปลดลง 13.3% และลดลงอีก 8.3% ในปี พ.ศ. 2566 ซึ่งอาจลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ศ. 2543 ขณะเดียวกัน การเติบโตของกำลังการรีไซเคิลก็ชะลอตัวลง และโรงงานรีไซเคิลในหลายประเทศสมาชิกก็ถูกปิดตัวลง มาตรการในอนาคตที่จะห้ามการส่งออกขยะพลาสติกไปยังประเทศที่สามจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดภายในประเทศ จดหมายฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่าต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ความไม่แน่นอนทางกฎหมายและข้อบังคับ ภาระการบริหาร และการแข่งขันระดับโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น กำลังทำให้ความยืดหยุ่นของอุตสาหกรรมค่อยๆ อ่อนแอลง และเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนและนวัตกรรม ภัยคุกคามจากการลดการใช้อุตสาหกรรมได้เปลี่ยนจากทฤษฎีมาเป็นความจริง
เพื่อแก้ไขวิกฤตินี้ อุตสาหกรรมได้ร่วมกันเสนอนโยบาย 6 ประการ
ฟื้นฟูการแข่งขันที่เป็นธรรม - ส่งเสริมพลาสติกหมุนเวียนของสหภาพยุโรปทันที
ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมโดยการนำมาตรการซึ่งกันและกันหรือกลไกทางเลือกมาใช้กับโพลิเมอร์รีไซเคิลและผลิตภัณฑ์พลาสติกที่นำเข้า เพิ่มแรงจูงใจในการรวบรวมและคัดแยกโครงสร้างพื้นฐาน สำรวจรางวัล Green VAT และ EPR เพื่อกระตุ้นการลงทุน รับรองมาตรฐานคุณภาพสูงและสร้างเกณฑ์การออกแบบรีไซเคิลที่เป็นหนึ่งเดียว ปฏิรูปการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเพื่อให้ความสำคัญกับพลาสติกรีไซเคิลของสหภาพยุโรป และลดการเผาและการฝังกลบเพื่อป้องกันไม่ให้ขยะหลุดออกจากระบบวงจร
ลดต้นทุนพลังงาน - เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกของพลาสติกรีไซเคิล
เสริมสร้างการบูรณาการนโยบายด้านวงจรและสภาพภูมิอากาศ จัดเตรียมมาตรการสนับสนุนที่ครอบคลุมถึงการรีไซเคิล มาสเตอร์แบตช์ การดัดแปลง และการแปรรูปสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกเพื่อรวมเข้าไว้ในขอบเขตของ NZIA, CISAF, IDAA และ CEEAG เสนอแผนพลังงานราคาไม่แพง การลดหย่อนภาษี และเงินทุนตามการปล่อยมลพิษ ความช่วยเหลือระดับชาติ (รวมถึงเงินอุดหนุนการดำเนินงาน) ควรเน้นที่การลดการปล่อย CO₂ ประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และการใช้แบบวงจร และจัดเตรียมช่องทางสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและวิสาหกิจที่มีอยู่ ลงทุนรายได้จาก ETS และ "Plastic Autonomous Resources" อีกครั้งในกองทุนการแข่งขันพิเศษเพื่อการใช้ประโยชน์แบบวงจรและการจัดการขยะ
ขจัดช่องโหว่ในการตรวจสอบและการบังคับใช้กฎหมาย
ให้แน่ใจว่าหน่วยงานที่มีอำนาจ (รวมถึงศุลกากร) มีบุคลากรและทรัพยากรที่เพียงพอในการบังคับใช้กฎระเบียบรวมและการกำกับดูแลตลาด จัดให้มีการฝึกอบรม การเจรจากับภาคอุตสาหกรรม และเครื่องมือติดตามดิจิทัลสำหรับหน่วยงานที่มีอำนาจ จัดทำรหัสศุลกากรแยกกันสำหรับวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ฟอสซิลและไม่ใช่ฟอสซิล (ชีวภาพ รีไซเคิล ดักจับคาร์บอน) จัดทำกรอบการตรวจสอบของสหภาพยุโรปแบบรวมและการรับรองจากบุคคลที่สามที่กระชับ ดำเนินการตรวจสอบอย่างเท่าเทียมกันของการประกาศเนื้อหาที่รีไซเคิล การปฏิบัติตามการสัมผัสอาหาร และการนำกฎระเบียบ REACH ไปใช้กับผลิตภัณฑ์นำเข้า และให้แน่ใจถึงสิ่งนี้ผ่านมาตรฐานการติดตามและวิธีการทดสอบ
การแก้ไขปัญหาการแยกส่วนกฎระเบียบ - เพื่อให้แน่ใจว่ามีการบังคับใช้กฎหมายของสหภาพยุโรปอย่างเป็นเอกภาพ
บังคับใช้กฎหมายภายในสหภาพยุโรปอย่างสม่ำเสมอและทั่วถึง; ปฏิบัติตามเป้าหมายเนื้อหาที่นำกลับมาใช้ใหม่อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเสริมด้วยการรับรองจากบุคคลที่สามและบทลงโทษ; รับรองการตีความกฎเกณฑ์อย่างสอดคล้องกันและเพิ่มความแน่นอนในการลงทุน; ลดภาระงานด้านการบริหารโดยการปรับปรุงกระบวนการออกใบอนุญาตและการรายงาน; ดำเนินการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดแบบรวมศูนย์และกำหนดมาตรฐาน "End-of-Waste" ทั่วทั้งสหภาพยุโรป; ในด้านวัสดุสัมผัสอาหาร คณะกรรมาธิการยุโรปควรเพิ่มทรัพยากรเพื่อให้แน่ใจว่าหน่วยงานที่มีอำนาจดำเนินการตรวจสอบที่เหมาะสม ดำเนินการลงทะเบียนในสหภาพยุโรปให้เสร็จสมบูรณ์ และเร่งการอนุมัติเทคโนโลยีใหม่ๆ
ทำลายทางตัน - ส่งเสริมนวัตกรรมและการลงทุนภาคเอกชน
ให้การสนับสนุนที่ตรงเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ สร้างสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน เร่งนวัตกรรม ในขณะเดียวกันก็รักษาความสามารถในการผลิตที่มีอยู่ พัฒนาระบบการรวบรวมที่มีประสิทธิภาพและขยายเทคโนโลยีการคัดแยกและแยก สนับสนุนเทคโนโลยีรีไซเคิลทั้งหมดโดยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่ยั่งยืน สหภาพยุโรปจำเป็นต้องเสริมสร้างการประสานงานการลงทุน รวมกฎเกณฑ์การรีไซเคิลและวัสดุ และชี้แจงการกำกับดูแลในระดับประเทศสมาชิกเพื่อสร้างตลาดพลาสติกหมุนเวียนที่เป็นหนึ่งเดียวและมีการแข่งขัน
เพิ่มประสิทธิภาพกลไก EPR - สร้างตลาดหมุนเวียนที่เป็นธรรม
รวมกฎเกณฑ์ EPR คำจำกัดความ และค่าธรรมเนียมการกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมภายในสหภาพยุโรป ให้รางวัลการออกแบบที่สามารถรีไซเคิลได้และส่วนประกอบที่รีไซเคิลได้ในลักษณะที่เป็นกลางทางวัสดุเพื่อแก้ไขความล้มเหลวของตลาด การกำกับดูแลเชิงกลยุทธ์ควรทำให้แน่ใจว่าห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดมีส่วนร่วมในกระบวนการ (เช่น การจัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษา) และการกำกับดูแลการดำเนินงานควรคงความเป็นอิสระของ PRO หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามข้อกำหนดขั้นต่ำที่เกิดจากการแข่งขันด้านค่าธรรมเนียม
ท้ายที่สุด จดหมายร่วมฉบับนี้เน้นย้ำว่า หากปราศจากการดำเนินการเชิงกลยุทธ์อย่างเร่งด่วน อุตสาหกรรมพลาสติกของยุโรปจะยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การปิดโรงงานและการล้มละลายมากขึ้น การลงทุนด้านนวัตกรรมและการรีไซเคิลที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษอาจสูญเปล่า และงานสีเขียวหลายพันตำแหน่งอาจสูญหายไป " สหภาพยุโรปกำลังอยู่ในทางแยก วิสัยทัศน์ของเศรษฐกิจพลาสติกหมุนเวียนในยุโรปจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการบังคับใช้กฎหมาย เพิ่มการลงทุนที่ตรงเป้าหมาย และสร้างความมั่นใจว่าจะมีการแข่งขันที่เป็นธรรม " จดหมายฉบับนี้ระบุ
